... หากฝันของคุณ ...
คือการได้เห็นรอยยิ้ม และอนาคตที่สดใสของเด็กๆในชนบท
... หากฝันของคุณ ...
คือการได้แบ่งปันโอกาสและเชื่อมโยง
สายธารแห่งความรักสู่ท้องทุ่งอันห่างไกล
..... และหากฝันของคุณ......
คือการได้ต่อฝันของใครอีกหลายคนที่ยอมอุทิศทั้งชีวิต
เพื่อการเป็นครูที่ดี.......
คือการได้เห็นรอยยิ้ม และอนาคตที่สดใสของเด็กๆในชนบท
... หากฝันของคุณ ...
คือการได้แบ่งปันโอกาสและเชื่อมโยง
สายธารแห่งความรักสู่ท้องทุ่งอันห่างไกล
..... และหากฝันของคุณ......
คือการได้ต่อฝันของใครอีกหลายคนที่ยอมอุทิศทั้งชีวิต
เพื่อการเป็นครูที่ดี.......
ประวัติความเป็นมาโรงเรียนบ้านภูงามโนนสะอาด
โรงเรียนบ้านภูงามโนนสะอาด ก่อตั้งขึ้นโดยความต้องการของชุมชนซึ่งประสบปัญหาจากการที่ลูกหลานต้องเดินทางไปเรียนที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านนายาว ซึ่งอยู่ห่างจากชุมชนภูงามประมาณ 6 กิโลเมตร เส้นทางเดินต้องผ่านลำห้วยลำพระเพลิงน้อย พอเข้าฤดูฝน น้ำไหลหลากท่วมถนนจนไม่สามารถเดินทางไปเรียนได้ ส่งผลให้นักเรียนต้องขาดเรียนเป็นแรมเดือน ประกอบกับมีเหตุการณ์นักเรียนพลัดตกน้ำเสียชีวิต ชาวบ้านจึงเห็นความจำเป็นที่จะต้องช่วยกันสร้างโรงเรียนของชุมชนขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้รับความอนุเคราะห์จากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านนายาวให้เปิดเป็นโรงเรียนสาขา
ต่อมา ผู้นำชาวบ้านได้เรียนเชิญให้บาทหลวงประสิทธิ์ ตันเจริญ เจ้าอาวาสโบสถ์นักบุญลอเรนซ์ มาช่วยบริหารโรงเรียนโดยมุ่งเน้นที่หลักจริยธรรมนำการศึกษา สร้างขวัญกำลังใจและพัฒนาศักยภาพของคณะครูอาสา ควบคู่ไปกับการเร่งจัดทำร่างตราสารจัดตั้งโรงเรียน
โรงเรียนบ้านภูงามโนนสะอาดก่อตั้งขึ้นบนที่ดินขนาด 22 ไร่ โดยชาวบ้านได้ร่วมกันบริจาคเงินวัสดุสิ่งของ และแรงงานสร้างอาคารชั่วคราวชั้นเดียว หลังคามุงด้วยหญ้าแฝก ขนาด6 ห้องเรียน เริ่มเปิดทำการเรียนการสอนเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2549 ปัจจุบันมีอาคารมาตรฐานชั้นเดียวจำนวน 2 หลัง เปิดสอนในระดับชั้นปฐมวัย และประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 รวมจำนวนนักเรียน 140 คน คณะครูอาสาจำนวน 15 คน ( ยังไม่มีเงินเดือน )
โรงเรียนบ้านภูงามโนนสะอาด ก่อตั้งขึ้นโดยความต้องการของชุมชนซึ่งประสบปัญหาจากการที่ลูกหลานต้องเดินทางไปเรียนที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านนายาว ซึ่งอยู่ห่างจากชุมชนภูงามประมาณ 6 กิโลเมตร เส้นทางเดินต้องผ่านลำห้วยลำพระเพลิงน้อย พอเข้าฤดูฝน น้ำไหลหลากท่วมถนนจนไม่สามารถเดินทางไปเรียนได้ ส่งผลให้นักเรียนต้องขาดเรียนเป็นแรมเดือน ประกอบกับมีเหตุการณ์นักเรียนพลัดตกน้ำเสียชีวิต ชาวบ้านจึงเห็นความจำเป็นที่จะต้องช่วยกันสร้างโรงเรียนของชุมชนขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้รับความอนุเคราะห์จากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านนายาวให้เปิดเป็นโรงเรียนสาขา
ต่อมา ผู้นำชาวบ้านได้เรียนเชิญให้บาทหลวงประสิทธิ์ ตันเจริญ เจ้าอาวาสโบสถ์นักบุญลอเรนซ์ มาช่วยบริหารโรงเรียนโดยมุ่งเน้นที่หลักจริยธรรมนำการศึกษา สร้างขวัญกำลังใจและพัฒนาศักยภาพของคณะครูอาสา ควบคู่ไปกับการเร่งจัดทำร่างตราสารจัดตั้งโรงเรียน
โรงเรียนบ้านภูงามโนนสะอาดก่อตั้งขึ้นบนที่ดินขนาด 22 ไร่ โดยชาวบ้านได้ร่วมกันบริจาคเงินวัสดุสิ่งของ และแรงงานสร้างอาคารชั่วคราวชั้นเดียว หลังคามุงด้วยหญ้าแฝก ขนาด6 ห้องเรียน เริ่มเปิดทำการเรียนการสอนเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2549 ปัจจุบันมีอาคารมาตรฐานชั้นเดียวจำนวน 2 หลัง เปิดสอนในระดับชั้นปฐมวัย และประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 รวมจำนวนนักเรียน 140 คน คณะครูอาสาจำนวน 15 คน ( ยังไม่มีเงินเดือน )
---------------------------------------------------------------------------
อุดมการณ์ครูอาสานับจากวันแรกที่โรงเรียนแห่งนี้ได้ถูกก่อตั้งขึ้น หัวใจ และจิตวิญญาณสาธารณะของเหล่าครูอาสา ก็ได้ถูกบ่มเพาะขึ้นมาพร้อมๆกัน “ ครู “ ผู้เป็นเสมือนแสงเทียนเล่มน้อยท่ามกลางท้องทุ่งอันร้อนแล้งแต่กลับหนาวเหน็บในยามค่ำคืน ครูผู้ที่ยอมหลอมละลายตนเอง ต่อสู้กับความลำบากแร้นแค้น ไม่มีแม้กระทั่งเงินเดือนยังชีพมาตลอดเวลาหลายปี เพียงเพื่อหวังจะเป็นแสงสว่าง ชี้นำแนวทางทั้งความรู้และความดีงามให้แก่ลูกศิษย์ที่ตนรักกว่าแก้วตาดวงใจ หลายครั้งที่ครูจำต้องลาการสอนชั่วคราว เพื่อไปหารายได้สำหรับเป็นค่าครองชีพ แม้จะห่วงกังวลกับงานสอนในชั้นเรียนเพียงไรก็ตาม แต่นั่นก็เป็นทางรอดที่จะทำให้ทั้งครูและลูกศิษย์ยังสามารถอยู่ร่วมกันได้จนตราบเท่าทุกวันนี้
------------------------------------------------------------------------------------------------
เปิดใจครูอาสา
พ่อของผมสอนไว้ว่า “ทำดีไว้เพื่อลูก ทำถูกไว้เพื่อหลาน” พ่อทำเพื่อสังคมมาตลอด ชีวิตคนเราสั้นนักเมื่อเทียบกับอายุของสังคมและโลกที่จะพัฒนาก้าวต่อไป หากมีโอกาสทำเพื่อคนอื่นก็จงอย่าลังเล ...ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเป็นครู เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งพอ หากมีใครถามว่าผมเหมาะที่จะเป็นครูหรือเปล่า ผมไม่รู้! ผมรู้แต่ว่ายอมทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ลูกศิษย์ของผมได้รับในสิ่งที่ดีที่สุด รู้สึกภูมิใจที่เห็นเด็ก ๆ มีความสุข ผมรักพวกเขาและ อยากให้พวกเขามีอนาคตที่ดีขึ้น
นายประชา คำพรม ครูเอ๋ ป.6
เหนื่อย..แต่ถ้าเราไม่ทำก็ไม่รู้ว่าใครจะมาทำ เคยท้ออยู่บ่อยๆโดยเฉพาะเวลาที่เห็นครูอาสา
ลที่เคยร่วมงานกันค่อยๆหายหน้าไปทีละคนจนบางครั้งแทบไม่เหลือใคร ท้อจนกระทั่งเคยตัดสินใจลาออก แต่ไปได้ไม่กี่วันก็ต้องกลับมา เพราะฝันเห็นแต่หน้าเด็กๆ กลัวค่ะ กลัวว่าถ้าไม่มีเรา ไม่มีครูสอน แล้วพวกเขาจะอยู่กันยังไง
นางสาวหยาดพิรุณ ยอดเพชร ครูเจี๊ยบ ป. 2
สอนที่นี่ไม่มีเงินเดือน เงินเก็บที่เคยมีอยู่ก็ต้องเอามาเป็นค่าใช้จ่ายจนหมด อยู่มาตั้งแต่วันแรกที่ยังเป็นเสาธงต้นยูคา หลังคามุงหญ้า พื้นห้องเป็นดิน แต่ละห้องมีเพียงกระดานเท่านั้นที่เป็นตัวแบ่งห้อง พอฝนตก ลมมา ครูกับนักเรียนกอดกันกลมเหมือนแม่ไก่กกลูก คำว่า “ครู” ทำให้เราทิ้งเขาไปไม่ได้ อยากเห็นเขามีอนาคตที่ดี อ่านออกเขียนได้ เอาตัวรอดได้ในสังคม
เวลาที่เราป่วยไม่มาสอน เด็กๆจะคอยถามว่า “ทำไมวันนี้ครูไม่มาครูไม่สบายเป็นอะไร” ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ว่าถ้าวันหนึ่งที่เราจำเป็นต้องไปจากที่นี่จริงๆ เราจะเตรียมคำตอบสำหรับเด็กๆว่าอย่างไร
นางสาวยุวดี ปั้นทอง ครูหนิง ป.5
อยากกลับมาช่วยพัฒนาท้องถิ่น ทีแรกคิดว่าจะมาช่วยสักพัก แต่พอได้ลงมาสอน มันก็กลายเป็นความรับผิดชอบของเรา เด็กต้องการครูที่สอนอย่างต่อเนื่อง ครูที่รักและเข้าใจ สอนทั้งวิชาการสอนทั้งชีวิต อยากเห็นพวกเขาเป็นคนดี เด็กน่าจะเริ่มต้นที่ความดีก่อนแล้วค่อยพัฒนาสู่ความฉลาด บางครั้งน้อง ๆ ครูอาสาที่อยู่ด้วยกันต้องลาสอน ไปตัดผมบ้าง เล่นดนตรีบ้าง เพราะไม่มีทุนสำหรับใช้จ่าย รู้สึกเสียดายโอกาสแทนเด็ก ๆ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
นายพันธยุทธ ผิวแก้ว ครูโอ ป.1
รู้สึกดีใจมากครับที่โรงเรียนเติบโตมาได้ขนาดนี้ อยากขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในการทำให้ผ้าขาวผืนเล็ก ๆ กลางท้องทุ่งแห่งนี้เป็นผืนผ้าเนื้อดีที่สะอาดสดใส ...อยู่ที่นี่บางครั้งพวกเราไม่มีอะไรจะกินก็เก็บยอดผักตามทุ่งไร่ปลายนามากินกัน มันรู้สึกเศร้าปนสนุกนะ เป็นรสชาติชีวิตที่หาได้ยาก คำถามที่ผมถูกถามบ่อย ๆ คือ “ อยู่ได้อย่างไร ทั้งที่ไม่มีเงินเดือน จะพากันกินอุดมการณ์แทนข้าวหรือไง” ผมได้แต่ยิ้ม แล้วตอบตัวเองว่าอะไรที่ผมทำแล้วมีความสุข ผมจะตั้งใจทำและทำให้ดีที่สุด นายอุเทน เจียงพุดซา ครูเทน ฝ่ายกิจกรรม
พ่อของผมสอนไว้ว่า “ทำดีไว้เพื่อลูก ทำถูกไว้เพื่อหลาน” พ่อทำเพื่อสังคมมาตลอด ชีวิตคนเราสั้นนักเมื่อเทียบกับอายุของสังคมและโลกที่จะพัฒนาก้าวต่อไป หากมีโอกาสทำเพื่อคนอื่นก็จงอย่าลังเล ...ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเป็นครู เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งพอ หากมีใครถามว่าผมเหมาะที่จะเป็นครูหรือเปล่า ผมไม่รู้! ผมรู้แต่ว่ายอมทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ลูกศิษย์ของผมได้รับในสิ่งที่ดีที่สุด รู้สึกภูมิใจที่เห็นเด็ก ๆ มีความสุข ผมรักพวกเขาและ อยากให้พวกเขามีอนาคตที่ดีขึ้น
นายประชา คำพรม ครูเอ๋ ป.6
เหนื่อย..แต่ถ้าเราไม่ทำก็ไม่รู้ว่าใครจะมาทำ เคยท้ออยู่บ่อยๆโดยเฉพาะเวลาที่เห็นครูอาสา
ลที่เคยร่วมงานกันค่อยๆหายหน้าไปทีละคนจนบางครั้งแทบไม่เหลือใคร ท้อจนกระทั่งเคยตัดสินใจลาออก แต่ไปได้ไม่กี่วันก็ต้องกลับมา เพราะฝันเห็นแต่หน้าเด็กๆ กลัวค่ะ กลัวว่าถ้าไม่มีเรา ไม่มีครูสอน แล้วพวกเขาจะอยู่กันยังไง
นางสาวหยาดพิรุณ ยอดเพชร ครูเจี๊ยบ ป. 2
สอนที่นี่ไม่มีเงินเดือน เงินเก็บที่เคยมีอยู่ก็ต้องเอามาเป็นค่าใช้จ่ายจนหมด อยู่มาตั้งแต่วันแรกที่ยังเป็นเสาธงต้นยูคา หลังคามุงหญ้า พื้นห้องเป็นดิน แต่ละห้องมีเพียงกระดานเท่านั้นที่เป็นตัวแบ่งห้อง พอฝนตก ลมมา ครูกับนักเรียนกอดกันกลมเหมือนแม่ไก่กกลูก คำว่า “ครู” ทำให้เราทิ้งเขาไปไม่ได้ อยากเห็นเขามีอนาคตที่ดี อ่านออกเขียนได้ เอาตัวรอดได้ในสังคม
เวลาที่เราป่วยไม่มาสอน เด็กๆจะคอยถามว่า “ทำไมวันนี้ครูไม่มาครูไม่สบายเป็นอะไร” ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ว่าถ้าวันหนึ่งที่เราจำเป็นต้องไปจากที่นี่จริงๆ เราจะเตรียมคำตอบสำหรับเด็กๆว่าอย่างไร
นางสาวยุวดี ปั้นทอง ครูหนิง ป.5
อยากกลับมาช่วยพัฒนาท้องถิ่น ทีแรกคิดว่าจะมาช่วยสักพัก แต่พอได้ลงมาสอน มันก็กลายเป็นความรับผิดชอบของเรา เด็กต้องการครูที่สอนอย่างต่อเนื่อง ครูที่รักและเข้าใจ สอนทั้งวิชาการสอนทั้งชีวิต อยากเห็นพวกเขาเป็นคนดี เด็กน่าจะเริ่มต้นที่ความดีก่อนแล้วค่อยพัฒนาสู่ความฉลาด บางครั้งน้อง ๆ ครูอาสาที่อยู่ด้วยกันต้องลาสอน ไปตัดผมบ้าง เล่นดนตรีบ้าง เพราะไม่มีทุนสำหรับใช้จ่าย รู้สึกเสียดายโอกาสแทนเด็ก ๆ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
นายพันธยุทธ ผิวแก้ว ครูโอ ป.1
รู้สึกดีใจมากครับที่โรงเรียนเติบโตมาได้ขนาดนี้ อยากขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในการทำให้ผ้าขาวผืนเล็ก ๆ กลางท้องทุ่งแห่งนี้เป็นผืนผ้าเนื้อดีที่สะอาดสดใส ...อยู่ที่นี่บางครั้งพวกเราไม่มีอะไรจะกินก็เก็บยอดผักตามทุ่งไร่ปลายนามากินกัน มันรู้สึกเศร้าปนสนุกนะ เป็นรสชาติชีวิตที่หาได้ยาก คำถามที่ผมถูกถามบ่อย ๆ คือ “ อยู่ได้อย่างไร ทั้งที่ไม่มีเงินเดือน จะพากันกินอุดมการณ์แทนข้าวหรือไง” ผมได้แต่ยิ้ม แล้วตอบตัวเองว่าอะไรที่ผมทำแล้วมีความสุข ผมจะตั้งใจทำและทำให้ดีที่สุด นายอุเทน เจียงพุดซา ครูเทน ฝ่ายกิจกรรม
“ทีแรก คิดว่าเฮาสิเฮ็ดห้องเรียนให้เพิ่นให้เรียบร้อย จั๊กสามเดือนกะคือสิแล้ว นอกนั้นเป็นหน้าที่ของเพิ่น แต่ยิ่งเฮ็ดกะยิ่งเห็นปัญหาหลาย แล้ะวกะยิ่งผูกพันหลาย โรงเรียนต้องการคนซ่อย คิดว่าถ้าเฮาสิบ่เฮ็ด ไผสิมาเฮ็ด”
พ่อหมี หัวหน้าคุ้มภูงาม
(ผู้ร่วมก่อตั้งโรงเรียน)
“ วันที่ครูใหญ่วิเชียรและผู้นำชาวบ้าไปเชิญผมให้มาช่วยรักษาการบริหารสถานศึกษา ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะผมรู้ด้วยสถานการณ์แวดล้อมว่า ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว ผมก็คิดแต่เพียงว่า ยินดีจะช่วยเท่าที่สามารถ และ ณ วันนี้ ผมรู้ด้วยหัวใจของผมว่า ความสามารถของผมมีจำกัด แต่ความรัก ความผูกพันที่ผมมีต่อทีนี่ มันไม่มีคำว่าจำกัด ”
บาทหลวงประสิทธิ์ ตันเจริญ
(รักษาการผู้บริหารสถานศึกษา)
---------------------------------------------------------------------------
กองทุนครูอาสาสานฝันปันรัก
จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือคณะครูอาสาในเรื่องของค่าครองชีพ และการศึกษาต่อ เพราะคณะครูอาสาเป็นกำลังสำคัญทั้งในปัจจุบัน และอนาคตโรงเรียน ที่มักจะถูกมองข้าม
กลุ่มบุคคลต่างๆ มักจะช่วยสร้างอาคาร และบริจาคสิ่งของ แต่มีน้อยคนมากที่จะคิดถึงครูอาสา ทั้งๆที่โรงเรียนนี้อยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ที่เรียบง่ายว่า
“มีครูอาสาโรงเรียนก็ยังอยู่ วันใดขาดครูโรงเรียนก็ร้าง ”
จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือคณะครูอาสาในเรื่องของค่าครองชีพ และการศึกษาต่อ เพราะคณะครูอาสาเป็นกำลังสำคัญทั้งในปัจจุบัน และอนาคตโรงเรียน ที่มักจะถูกมองข้าม
กลุ่มบุคคลต่างๆ มักจะช่วยสร้างอาคาร และบริจาคสิ่งของ แต่มีน้อยคนมากที่จะคิดถึงครูอาสา ทั้งๆที่โรงเรียนนี้อยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ที่เรียบง่ายว่า
“มีครูอาสาโรงเรียนก็ยังอยู่ วันใดขาดครูโรงเรียนก็ร้าง ”
การบริหารกองทุน
50 % งบบริหาร (โครงการอาหารกลางวัน, จักรยานยืมเรียน, เกษตรกรรมเพื่อกาพึ่งพาตนเอง, หนังสือ, อุปกรณ์การเรียน, สื่อการสอน)
25% ค่าครองชีพพื้นฐานครูอาสา
25% ส่งเสริมให้ครูศึกษาต่อจนได้ใบประกอบวิชาชีพครู
แนวทางการให้ความช่วยเหลือ
□ บริจาคเป็นรายเดือน จำนวนเดือนละ ......... บาท
□ บริจาคเงินจำนวน ............ บาท
□ บริจาคสิ่งของ
□ อื่นๆ (โปรดระบุ)................................................
สำหรับท่านที่สนใจบริจาคเงินสมทบกองทุน เยี่ยมชมโรงเรียน หรือเลี้ยงอาหารกลางวันเด็ก สามารถติดต่อได้ที่ โรงเรียนบ้านภูงามโนนสะอาด หมู่ 18 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา 24160 โทรศัพท์ 081-371-0071 (บาทหลวงประสิทธิ์ ตันเจริญ) , 081-156-3033 (ครูพันธยุทธ ผิวแก้วรักษาการครูใหญ่)
บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสระแก้ว ชื่อบัญชี นางสาวหยาดพิรุณ ยอดเพชร และ/หรือ นางสาวยุวดี ปั้นทอง และ/หรือ นายพันธยุทธ ผิวแก้ว เลขที่บัญชี 738-2-31002-6
** หมายเหตุ : เงินบริจาคเพื่อการศึกษาสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า (ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อกรมสรรพากร)
50 % งบบริหาร (โครงการอาหารกลางวัน, จักรยานยืมเรียน, เกษตรกรรมเพื่อกาพึ่งพาตนเอง, หนังสือ, อุปกรณ์การเรียน, สื่อการสอน)
25% ค่าครองชีพพื้นฐานครูอาสา
25% ส่งเสริมให้ครูศึกษาต่อจนได้ใบประกอบวิชาชีพครู
แนวทางการให้ความช่วยเหลือ
□ บริจาคเป็นรายเดือน จำนวนเดือนละ ......... บาท
□ บริจาคเงินจำนวน ............ บาท
□ บริจาคสิ่งของ
□ อื่นๆ (โปรดระบุ)................................................
สำหรับท่านที่สนใจบริจาคเงินสมทบกองทุน เยี่ยมชมโรงเรียน หรือเลี้ยงอาหารกลางวันเด็ก สามารถติดต่อได้ที่ โรงเรียนบ้านภูงามโนนสะอาด หมู่ 18 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา 24160 โทรศัพท์ 081-371-0071 (บาทหลวงประสิทธิ์ ตันเจริญ) , 081-156-3033 (ครูพันธยุทธ ผิวแก้วรักษาการครูใหญ่)
บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสระแก้ว ชื่อบัญชี นางสาวหยาดพิรุณ ยอดเพชร และ/หรือ นางสาวยุวดี ปั้นทอง และ/หรือ นายพันธยุทธ ผิวแก้ว เลขที่บัญชี 738-2-31002-6
** หมายเหตุ : เงินบริจาคเพื่อการศึกษาสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า (ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อกรมสรรพากร)
กองทุนครูอาสาสานฝันปันรัก
ขอเชิญทุกท่านร่วมสมัครเป็นครูอาสา หรือร่วมบริจาคเงิน เพื่อต่อเติมอุดมการณ์ของครูอาสาหลายชีวิตแห่งโรงเรียนบ้านภูงามโนนสะอาด ครูผู้ยอมอุทิศตนเพื่ออนาคตของเด็กๆมาตลอดหลายปีโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน อนาคตของโรงเรียนแห่งนี้ อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่เรียบง่ายว่า . . .
“ มีครูอาสา โรงเรียนก็ยังอยู่ วันใดขาดครูโรงเรียนก็ร้าง ”
==================================
#############################################
2 ความคิดเห็น:
เป็นกำลังใจให้ครูขวัญ และทุกคน
ให้ครูขวัญมีความสุข และตั้งใจสอนนักเรียนนะครับ
แสดงความคิดเห็น